กันยายน 13, 2550

ความประทับใจในชีวิต - กว่าจะถึงวันนี้


ชีวิตในช่วงวัยมัธยมของฉันนนั้นได้สอนประสบการณ์หลายอย่างทั้งทางที่ดีและทางที่ไม่ดีแต่ส่วนมากจะเป็นทางที่ไม่ดีมากกว่า แต่ถึงอย่างไรประสบการณ์เหล่านั้นก็ทำให้ฉันนั้นมีทุกวันนี้ ในช่วงวัยที่อยู่ชั้นมัธยมนั้นฉันเริ่มที่จะเป็นเด็กที่เกเรมากคนหนึ่งในสายตาอาจารย์เกือบจะทุกคนเพราะด้วยความที่ฉันไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ และชอบหนีเรียน ตัวฉันนั้นเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช ตอนเรียนอยู่ชั้นประถม ฉันนั้นเป็นเด็กที่เรียนดีคนหนึ่ง แต่พอมาอยู่ในช่วงชั้นมัธยมปีที่ ๑ นั้นฉันนั้นคบเพื่อนเป็นจำนวนมาก แล้วเพื่อนของฉันแต่และคนนั้นเป็นเด็กที่ไม่เรียนหนังสือเกเรไปวันๆฉันนั้นชอบมีเรื่องทะเลาะวิวาทในโรงเรียนบ่อยมากทั้งกับรุ่นพี่และรุ่นเดียวกันต่อมาวันหนึ่งเพื่อนของฉันนั้นมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเด็กโรงเรียนประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ฉันกับเพื่อนอีกหลายคนก็โดดเรียนกันไปทะเลาะวิวาทกับเด็กกลุ่มนั้น จนทำให้ถูกเชิญผู้ปกครอง และพักการเรียน เพราะวันที่ไปทะเลาะวิวาทกันนั้นรื่องเลยโดนตำรวจจับได้ เรื่องจึงมาถึงโรงเรียน จนในที่สุดจะจบภาคเรียนที่ ๒ นั้นผลการเรียนของฉันนั้นตกต่ำมากเหลือแค่ ๑.๒๓ จากเด็กที่เรียนได้เกรดดีมาตลอดจนทำให้ต้องย้ายโรงเรียนเพราะถ้ายังเรียนที่นั้นต่อแม่บอกว่าคงไม่จบ ม ๓ แน่ๆ ฉันเลยต้องย้ายโรงเรียนมาเรียนที่ จังหวัด ตรัง เมื่อมาอยู่ที่นี้ฉันต้องปรับตัวใหม่ทุกอย่าง เพื่อนใหม่ โรงเรียนก็ใหม่ แถมยังไม่รู้จักใครเลย ตอนนั้นฉันรู้สึกเหงามากๆ แต่ก็มีเรื่องขึ้นมาจนได้เนื่องจากฉันเป็นเด็กที่หน้าตาคมเข้มหรือที่พูดง่ายๆ ว่าหน้าดุน่ะ ก็เลยมีเรื่องกับรุ่นพี่ตบตีกันจนได้แผลไปเล็กน้อย และหลังจากวันนั้น ฉันก็เริ่มกับไปทำตัวเหมือนเดิม คบกับเพื่อนกลุ่มที่ไม่ค่อยเรียนหนังสือ หนีเรียนไปเที่ยว จนอาจารย์ที่นั้นรู้จักสรรพนามองฉันดี เพราะฉันนั้นเข้าออกห้องปกครองเป็นว่าเล่นเลย มีอยู่ครั้งหนึ่งฉันทะเลาะกับเพื่อนชายต่างห้องด้วยความโมโหฉันเลยใช้มีดแทงผู้ชายคนนั้น จนบาดเจ็บและเรื่องก็มาถึงหูของพ่อและแม่พ่อจึงดุและว่าฉันควรเป็นคนที่อารมณ์เย็นกว่านี้นะ แล้วพ่อก็เสียค่าเสียหายให้กับผู้ชายคนนั้น ตอนนั้นฉันเป็นเด็กที่อาจารย์ทุกคนจ้องที่จะจับผิด และพูดว่าอย่างไรฉันก็เรียนไม่จบมัธยม ปีที่ ๓ แน่ๆ แต่ฉันก็เรียนจนจบมัธยมปีที่ ๓ ฉันคิดว่าฉันอยากไปเรียนสายเทคนิคต่อเพราะเพื่อนขของฉันก็ไปเรียนที่นั้นเกือบทุกคน แต่ทางบ้านของฉัน นั้นไม่ยอมแน่ๆ เพราะถึงไปเรียนก็เรียนไม่จบอีก พ่อและแม่อยากที่จะให้ฉันเรียนสายสามัญต่อ ฉันเลยฝืนใจมาเรียนสายสามัญ สายศิลป์ทั่วไป ก็มาสอบสัมภาษณ์ที่โรงเรียนเดิมที่ฉันจบ มัธยมปีที่ ๓ นั้น แต่สอบสัมภาษณ์ถึง ๓ ครั้งก้ไม่ผ่าน อาจเป็นเพราะฉันนั้นสร้างความเดือดให้กับที่นี้มากเขาเลยไม่อยากรับฉันเรียนที่นี้ แม่ของฉันเลยพาฉันไปหาท่านผู้อำนวยการและของฝากให้ฉันเรียนที่นั้นด้วย ท่านผู้อำนวยการก็รับปากและให้เรียนชั้นมัธยมปลายที่นั้น แต่ท่านขอร้องให้ฉันทำตัวเป็นคนใหม่ ตั้งใจเรียน และเป็นตัวอย่างให้รุ่นน้องดูให้ได้ ฉันก็รับปากท่านว่าฉันจะตั้งใจเรียนให้ถึงที่สุด หลังจากนั้นฉันก็พยายามทำตัวเป็นคนใหม่คบกับเพื่อนๆ ที่ขยันเรียนหนังสือ และไม่เที่ยวเตร่แล้ว หลังจากนั้นผลการเรียนของฉันก็ดีขึ้นมากจนได้เลื่อนห้องไปอยู่ ห้องสายศิลป์ห้องแรกคือห้อง ๕/๒ ฉันก็ขยันเรียนมากขึ้น ขยันอ่านหนังสือ และทำกิจกรรมของโรงเรียนฉันได้เลือกเป็นคณะกรรมการนักเรียนทำงานให้โรงเรียน และช่วงนั้นโรงเรียนฉันได้โรงเรียนในฝัน ฉันเป็นคณะกรรมการต้อนรับท่าน ปิยะบุตร ชนวิชาญ ฉันดีใจมากที่ได้ทำงานเพื่อส่วนรวม และต่อมาฉันก็ได้เรียนชั้น มัธยมปีที่ ๖/๒ และช่วยกิจกรรมทางดรงเรียนมาเรื่อยๆ ฉันนั้นได้ยกให้เป็นตัวอย่างที่ดีของโรงเรียน ให้น้องนั้นควรทำตัวเป็นแบบอย่าง แล้วช่วงก่อนเอนท์นั้นฉันขยันอ่านหนังสือมากเป็นพิเศษ จนเอนท์ติดรอบแรกของ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ฉันจบมัธยมศึกษาปีที่ ๖ นั้นด้วยเกรดเฉลี่ย ๒.๗๕ ถึงแม้จะเป็นเกรดเฉลี่ยที่ไม่มากมายนักแต่ฉันก็ภูมิใจที่สุด
ฉันต้องขอขอบคุณบุคคลสำคัญต่างๆ ที่ทำให้ฉันมาถึงทุกวันนี้จากเด็กที่เลยเกเรมากคนหนึ่ง ฉันขอบคุณพ่อและแม่ที่อยู่ข้างฉันและให้คำปรึกษากับฉันมาโดยตลอด และท่านผู้อำนวยการโรงเรียนที่ให้โอกาสฉันในวันนั้น ถ้าท่านไม่ให้โอกาสฉันวันนั้น ฉันคงมาไม่ถึงทุกวันนี้ อย่างน้อยฉันก็ลบคำที่สพประมาทฉันได้ว่าคงเรียนไม่จบ คนเราไม่มีใครหรอกที่ดีไปหมดทุกอย่าง เหมือนอย่างชีวิตฉันฉันสัญญาว่าจะเรียนใน มหาวิทยาลัยสงขลานคริทร์นี้จนจบปริญญาให้ได้ (ฉันสัญญาค่ะ)
ผู้เขียน s5020210041@mor-or.pn.psu.ac.th

ไม่มีความคิดเห็น: